เกี่ยวกับศิริชัยแฟบริค

จากคำบอกเล่าของคุณลุงพูดไว้ว่า เมื่อก่อนประมาณปี 2480 อากงนั่งรถไฟที่หัวลำโพงไปตามจังหวัดต่างๆ ทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ พอไปถึงที่จังหวัดนั้นๆก็ซื้อผ้าจากแหล่งขายผ้า แล้วใช้เกวียนเข็นขายผ้าตามสถานที่ต่างๆ ส่วนอาม่าก็ตั้งรกรากที่ถนนแพร่งนรา โดยอาศัยไปซื้อสินค้าที่สำเพ็งแล้วไปขายที่สนามหลวง

 

พอปี 2503 ก็เปิดร้าน ศิริชัย เป็นอาคารไม้ห้องเดียวอยู่ฝั่งตลาดยิ่งเจริญ ขายทั้งผ้าเมตร เสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าหลากหลายอย่าง เมื่อสมัยนั้นถนนมีเพียง 2 เลน ข้างทางเป็นต้นก้ามปูใหญ่ยาวทั้ง 2 ข้างทาง คนใช้รถยนต์ก็ยังมีน้อย ส่วนมากยังสัญจรกันด้วยเรือเป็นปกติ และด้วยความที่สมัยก่อนห้างยังมีน้อยนัก ตลาดยิ่งเจริญก็เป็นตลาดใหญ่ด้วย จึงขายดีมาก คนที่มาจับจ่ายใช้สอยกันที่ตลาดยิ่งเจริญสมัยนั้นส่วนใหญ่มาจากลำลูกกา

 

จนถึงปี 2528 ก็ได้ขยับขยาย ซื้ออาคารพาณิชย์ 2 ห้อง ฝั่งตรงข้ามตลาด โดยใช้ชื่อร้านเดิมก็คือ “ศิริชัย” ขายสินค้าหลากหลายเหมือนเดิมแต่ขยายแบบปลีกย่อยได้หลากหลายขึ้น

 

ต่อมาปี 2534 ลูกชายของอาม่าก็คือคุณพ่อ ก็แยกมาเปิดร้านโดยขายสินค้าเป็นผ้าเมตร และอุปกรณ์ผ้าเป็นสาขา 2 ฝั่งตรงข้ามตลาดยิ่งเจริญเช่นกัน

ปัจจุบันนี้เสื้อผ้าสำเร็จนั้นเป็นที่แพร่หลายจนทุกคนก็เข้าถึงได้ ทางด้านคนทำอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้าก็น้อยลงไปมาก พอๆกับที่ร้านขายผ้าเองก็ไม่ค่อยเป็นที่นิยมสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการสานต่อกิจการ ทาง Sirichai Fabric เองก็อยากให้ธุรกิจผ้าในประเทศยังไปต่อได้ และอยากให้คนที่รักงานผ้า และตัดเย็บเสื้อผ้ายังสามารถเข้าถึงสินค้าดีมีคุณภาพได้อยู่ อีกทั้งทีมงานก็ยังพยายามพัฒนาธุรกิจเพื่อให้ต่อยอดไปสู่บริการที่ดีมากยิ่งขึ้น สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่อ่านมาจนถึงบรรทัดสุดท้าย ผมเองในฐานะรุ่นที่ 3 ซึ่งเติบโตในยุค Gen Y ก็จะตั้งใจพัฒนา Sirichai Fabric โดยนำเทคโนโลยีมาช่วยในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตไปกับสังคมไทยต่อไป และก็ขอเชิญชวนลูกค้าทุกท่านสู่ร้าน Sirichai Fabric ครับ